เทคนิคการปรับปรุงประสิทธิภาพของงานตรวจสอบ – เรื่องที่ 539
หนังสือ การบริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ อาจารย์ จิรพร สุเมธีประสิทธิ์
วางจำหน่ายที่ ร้านซีเอ็ด ร้าน B2S ราคาปก 179 บาท
อาจารย์จิรพร สุเมธีประสิทธิ์
http//chirapon.wordpress.com
ความจำเป็นในการพัฒนางานตรวจสอบภายใน เพื่อนำไปสู่การสร้างคุณค่าเพิ่มแก่กิจการ ทำให้งานตรวจสอบภายในต้องแสวงหาเทคนิคหลายเทคนิคมาช่วยให้งานการตรวจสอบภายในสามารถสร้างประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากขึ้น
ผลการสำรวจบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านการตรวจสอบในต่างประเทศได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับเทคนิคการปรับปรุงประสิทธิภาพของงานการตรวจสอบภายในหลายประการ ได้แก่
ประการที่ 1 การจัดโปรแกรมเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเสริมความรู้
ผู้ที่มีความรู้ภายในองค์กรที่ปฏิบัติงานตามหน่วยธุรกิจอาจจะมีความรู้และภูมิปัญญาในการบริหารกิจการอย่างดี ซึ่งทีมตรวจสอบภายในอาจจะเชิญมาให้ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ทีมตรวจสอบภายใน และสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงงานการตรวจสอบภายในให้มากขึ้น ขณะเดียวกันแขกรับเชิญเองจะเพิ่มความเข้าใจในมุมมองและจุดยืนของงานตรวจสอบมากขึ้น
เทคนิคแบบนี้เป็นการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ การดำเนินธุรกิจบางอย่างที่ฝังอยู่ภายในตัวบุคคลให้เป็นองค์ประกอบในการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่งานตรวจสอบในเรื่องที่มีความเฉพาะตัวและความซับซ้อนมากเป็นพิเศษในบางเรื่อง
ประการที่ 2 เทคนิคการประเมินผลการตรวจสอบรายบุคคล
หากพบว่าการตรวจสอบติดต่อกัน 3 ปีของบุคคลใดบุคคลหนึ่งในทีมตรวจสอบไม่ได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้น ก็ต้องถือว่าผลการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของงานตรวจสอบของผู้ตรวจสอบคนนั้นไม่ผ่าน และควรจะมอบหมายให้ปฏิบัติงานด้านอื่นๆแทน
อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการระบุเกณฑ์ในการยกระดับคุณภาพงานตรวจสอบรายบุคคลล่วงหน้า และสื่อสารหรือชี้แจงให้ผู้ตรวจสอบทุกคนรับทราบก่อน เพื่อจะได้วางแนวทางของตนเองในการปรับปรุงคุณภาพของงานการตรวจสอบของตน
ประการที่ 3 การปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้ตรวจสอบ
ด้วยการสรรหาบุคคลที่มาจากสายงานอาชีพหรือมีพื้นความรู้ในภาคธุรกิจที่กว้างขวางขึ้น นอกเหนือจากคนที่จบสาขาบัญชีอย่างเดียว
นอกจากนั้น การหล่อหลอมผู้ตรวจสอบให้ใส่ใจในการทำงานสัมภาษณ์ในการแสวงหาความรู้ในภาคธุรกิจให้ครบวงจรยังต้องใช้เวลาและอาจจะไม่ประสบความสำเร็จกับบุคคลทุกคน
ประการที่ 4 การยอมรับให้ใช้บุคลากรจากภายนอกมาเป็นทรัพยากรร่วม (Co-Sourcing)
เนื่องจากงานการตรวจสอบจะมีบางช่วงที่ปริมาณงานมากกว่าปกติ แต่หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว ความต้องการใช้บุคลากรก็จะลดลง กาว่าจ้างบุคลากรให้ครบทุกอัตราที่ต้องการโดยพิจารณาจากช่วงเวลาที่ปริมาณงานสูงสุด จะมีผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพนักงานสูงตามไปด้วย
วิธีการที่มีการใช้บุคลากรชั่วคราวมาทำงานร่วม (Co-Sourcing) จึงเป็นทางออกหนึ่งที่หลายกิจการนำมาใช้กับงานตรวจสอบภายใน
เหตุผลที่ทำให้กิจการใช้วิธีการหาผู้ร่วมงานเพิ่มเติมชั่วคราว ได้แก่
1) เพื่อลดช่องว่างด้านการขาดแคลนทักษะในบางด้าน โดยเลือกบุคลากรร่วมชั่วคราวเฉพาะในส่วนที่ขาดแคลนประสบการณ์ของบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยทำได้อย่างรวดเร็วกว่าวิธีการสรรหาเข้ามาร่วมงานถาวร
2) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับแผนงานการตรวจสอบได้ตามความจำเป็นด้วยการดึงบุคลากรชั่วคราวเข้ามาทำการตรวจสอบเฉพาะเจาะจงในบางด้านของการดำเนินธุรกิจ ที่บุคลากรที่มีอยู่ไม่ถนัด และส่งกลับสู่หน่วยงานเดิมเมื่อไม่มีความจำเป็นแล้ว
3) เพื่อการบริหารและประหยัดต้นทุนดำเนินงานของหน่วยงานตรวจสอบ โดยสามารถปรับเพิ่มและลดค่าใช้จ่ายด้านบุคคลในงานตรวจสอบได้ดีขึ้นตามความต้องการ ขณะที่สามารถได้บุคลากรที่มีคุณภาพและความเชี่ยวชาญเฉพาะตามที่ต้องการได้ด้วย
ประการที่ 5 – การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการช่วยบริหารการตรวจสอบ
ในระยะหลังๆ งานตรวจสอบมีความสนใจและพยายามหาช่องทางในการนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาช่วยงานการตรวจสอบมากขึ้น
เทคโนโลยีใหม่ๆยังสามารถช่วยงานของผู้ตรวจสอบในรูปแบบธุรกิจบางอย่างที่ซับซ้อนและร่นระยะเวลาในการทำงานตรวจสอบตามความจำเป็น
1) เทคโนโลยีที่ช่วยที่ช่วยงานวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบ เช่น Scoring
2) เทคโนโลยีที่รวบรวมสารสนเทศและจัดทำให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ
3) เทคโนโลยีที่เป็นระบบงานของกิจการในการตรวจสอบ
4) การตรวจสอบบน e-Audit
ประการที่ 6 การสร้างสัมพันธภาพที่ดีขึ้นในกลุ่มผู้ตรวจสอบผู้บริหารและผู้ตรวจสอบภายนอก
ผู้ตรวจสอบมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการปรับสัมพันธภาพกับผู้บริหารภายในองค์กรมากขึ้น เพราะเห็นว่าความสัมพันธ์ส่วนนี้เปราะบางและวิกฤติมากที่สุด
นอกจากกลุ่มผู้บริหารแล้ว สัมพันธภาพที่ดีกับทุกฝ่ายงานภายในกิจการ รวมทั้งประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับทุกกลุ่มจะต้องมีความสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน ได้มีโอกาสชี้แจงประเด็นหลักที่มีผลกระทบสำคัญต่อการดำเนินงาน และติดตามความคืบหน้า หรือประเด็นใหม่ๆ
สนใจเชิญบรรยายหัวข้อนี้ติดต่อ sumetheeprasit@hotmail.com
ยังไม่มีความเห็น
-
ล่าสุด
- เรื่องที่ 4030 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 3/6 (ประยุกต์ใช้ 5 องค์ประกอบ 17 หลักการ)
- เรื่องที่ 4029 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 3/5 (ประยุกต์ใช้ 5 องค์ประกอบ 17 หลักการ)
- เรื่องที่ 4028 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 3/4 (ประยุกต์ใช้ 5 องค์ประกอบ 17 หลักการ)
- เรื่องที่ 4027 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 3/3 (ประยุกต์ใช้ 5 องค์ประกอบ 17 หลักการ)
- เรื่องที่ 4026 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 3/2 (ประยุกต์ใช้ 5 องค์ประกอบ 17 หลักการ)
- เรื่องที่ 4025 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 3/1 (ประยุกต์ใช้ 5 องค์ประกอบ 17 หลักการ)
- เรื่องที่ 4024 กรอบแนวปฏิบัติที่ดีใหม่ COSO ICSR เตรียมรับมือควบคุมที่ต้องเปิดเผยรายงานด้านความยั่งยืน ตอนที่ 2 (การออกแบบ การขับเคลื่อนภาคปฏิบัติ)
- หลักสูตรเดือนพฤษภาคม 2567 สำนักสริพัฒนา นิด้า
- หลักสูตรการบริหารความเสี่ยงต้องอบรมเชิงวิชาชีพมากขึ้นตาม GLOBAL TREND PROFESSIONAL
- หลักสูตร นิด้า สำนักสิริพัฒนา การปรับตัวงานตรวจสอบภายในตาม NEW GLOBAL INTERNAL AUDIT STANDARDS 2024
- หลักสูตรใหม่ NIDA ด้านบริหารความเสี่ยง ควบคุมภายใน ตรวจสอบภายใน เดือนพฤษภาคม 2567
- รูปแบบความเสี่ยง = CHANGE + UNCLEAR + UNKNOWN
-
ลิงก์
-
คลังเก็บ
- พฤษภาคม 2024 (7)
- เมษายน 2024 (21)
- มกราคม 2024 (2)
- ตุลาคม 2023 (5)
- กันยายน 2023 (7)
- กรกฎาคม 2023 (53)
- มิถุนายน 2023 (73)
- เมษายน 2021 (1)
- มิถุนายน 2019 (1)
- มกราคม 2018 (1)
- กันยายน 2017 (3)
- สิงหาคม 2017 (2)
-
หมวดหมู่
- ไม่มีหมวดหมู่
-
RSS
Entries RSS
Comments RSS
ใส่ความเห็น